PHOL คาด H2/60 ธุรกิจฟื้นหลังปัญหาโครงการน้ำล่าช้าดีขึ้น มอง conservative ตั้งสำรองหนี้ค่าปรับผู้รับเหมา เป็นผลให้งบ Q2/60 ขาดทุน 85 ลบ.
PHOL คาดผลงานครึ่งปีหลังดีขึ้น หลังเร่งแก้ไขปัญหาการก่อสร้างโครงการประปาล่าช้า อย่างไรก็ตาม เพื่อความระมัดระวัง ใน Q2/60 จึงบันทึกต้นทุนค่าปรับที่เกิดขึ้นในปีนี้และตั้งสำรองหนี้ค่าปรับผู้รับเหมาทั้งจำนวน ทำให้มีผลขาดทุนสุทธิกว่า 85 ลบ. ด้านธุรกิจสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสินค้าและบริการด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม ในครึ่งปีแรกเติบโตได้ดีกว่าปีก่อน “บุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์” ซีอีโอ เผย ปัญหางานล่าช้าในธุรกิจน้ำดังกล่าวเริ่มคลี่คลาย และมีแนวโน้มดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ส่วนธุรกิจสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม และสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม ยังเติบโตได้ดีตามแผน ทีมผู้บริหารพร้อมรุกทุกธุรกิจ เร่งทำงานหนักอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในธุรกิจน้ำ เพื่อส่งมอบงานโครงการที่ล่าช้าให้ได้ทั้งหมดโดยเร็ว
นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจปี 2560 บริษัทฯ เดินหน้ารุกทุกธุรกิจ โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (SAFETY) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ และกลุ่มสินค้าและบริการด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนรายได้รวมกัน 90% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่กลุ่มสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค (WATER) ได้รับผลกระทบจากปัญหาการก่อสร้างโครงการน้ำประปาชุมชนล่าช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้เร่งแก้ไขปัญหา เร่งรัดงานก่อสร้าง สามารถทยอยส่งมอบงานได้แล้วหลายโครงการ โดยบริษัทฯจะเร่งส่งมอบงานโครงการที่ล่าช้าทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ด้านการเรียกร้องค่าปรับคืนจากผู้รับเหมา บริษัทฯได้เริ่มดำเนินการตามกฎหมายกับผู้รับเหมาแล้ว แต่เพื่อความระมัดระวังตามหลักบัญชี บริษัทฯจึงตั้งสำรองหนี้ค่าปรับดังกล่าวทั้งจำนวน ทำให้ผลประกอบการงวดไตรมาส 2 และ งวด 6 เดือนแรกของปีนี้ มีผลขาดทุน อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯได้รับชำระคืนค่าปรับดังกล่าวจากผู้รับเหมา บริษัทฯจะรับรู้เป็นรายได้ต่อไปในอนาคต
ผลประกอบการของบริษัทฯ งวดไตรมาส 2/2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการที่ 252.15 ล้านบาท ลดลง 16.95% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 303.61 ล้านบาท โดยมีรายได้จากกลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และกลุ่มสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อมเพิ่มขึ้น สำหรับกลุ่มสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำ รับรู้รายได้จากการรับเหมาก่อสร้างโครงการระบบน้ำประปาชุมชนลดลง และจากปัญหาการก่อสร้างโครงการน้ำที่ล่าช้า ในไตรมาส 2/2560 บริษัทฯได้ประมาณการหนี้สินที่เกิดจากความล่าช้าของโครงการจำนวน 137.81 ล้านบาท โดยเป็นหนี้สินที่บริษัทฯสามารถเรียกร้องจากผู้รับจ้างจำนวน 113.05 ล้านบาท และเพื่อความระมัดระวัง บริษัทฯจึงรับรู้ค่าปรับดังกล่าวที่เกิดขึ้นในปี 2560 เป็นต้นทุนการก่อสร้างทั้งจำนวน และตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญสำหรับลูกหนี้ค่าปรับเป็นจำนวน 60.50 ล้านบาท ทำให้ไตรมาส 2/2560 มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่จำนวน 85.63 ล้านบาท จากไตรมาส 2/2559 ที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่จำนวน 13.59 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 500.37 ล้านบาท ลดลง 12.57% เมื่อเทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปีก่อนที่ 572.34 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 96.61 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.55 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากธุรกิจหลักด้านการจัดจำหน่ายสินค้าและให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม และสินค้านการควบคุมสภาพแวดล้อม ที่สามารถดำเนินการได้เติบโตตามแผน และภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักมีแนวโน้มขยายตัว มีความต้องการใช้สินค้าและบริการของบริษัทฯเพิ่มมากขึ้น ด้านธุรกิจน้ำ พยายามเร่งส่งมอบงานโครงการ เชื่อว่าจะสนับสนุนผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังให้ดีขึ้น
“ผลกระทบจากธุรกิจน้ำที่ส่งมอบงานล่าช้า ทำให้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ พยามยามเร่งแก้ไขปัญหาด้านงานโครงการ ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และธุรกิจหลักด้านการจัดจำหน่ายสินค้าและให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม หรือ SAFETY รวมถึงสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE ยังเติบโตได้ตามแผน บริษัทยังเดินหน้าตามกลยุทธ์ที่วางไว้ เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทจะดีขึ้น สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน” นายบุญชัย กล่าว