Internal Information Utilization and Securities Trading Policies

นโยบายการดูแลการใช้ข้อมูลภายใน และการซื้อขายหลักทรัพย์

บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ให้ความสำคัญต่อการใช้ข้อมูลภายในของบริษัท โดยมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และเท่าเทียมกันตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี คณะกรรมการบริษัทจึงได้กำหนดนโยบายการดูแลการใช้ข้อมูลภายในสำหรับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน เพื่อเป็นกรอบแนวทางปฏิบัติในการใช้ข้อมูลภายในของบริษัทที่ยังมิได้เปิดเผยต่อสาธารณชน ไม่ให้เป็นไปเพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงการกำหนดมาตรการในการซื้อขายหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหาร พนักงานที่เป็นไปตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประกาศสำนักคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงกฎเกณฑ์ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

นโยบายและแนวทางปฏิบัติ

1. บริษัทยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายในที่มีผลต่อราคาหลักทรัพย์ซึ่งกำหนดไว้ใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา 242 โดยกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานและบุคคลที่บริษัทกำหนด ผู้เข้าถึงข้อมูลภายใน หรือบุคคลอื่นที่ล่วงรู้ข้อมูลภายใน และ/หรือ ครอบครองข้อมูลภายในของบริษัทที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน ต้องเก็บรักษาข้อมูลภายในด้วยความระมัดระวัง และต้องรักษาความลับ ห้ามนำข้อมูลนั้นไปเปิดเผย หรือแสวงหาประโยชน์ด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์แก่ตนเอง หรือเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่นใดทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม และไม่ว่าจะได้รับผลตอบแทนหรือไม่ก็ตาม
2. กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานและบุคคลที่บริษัทกำหนด ผู้เข้าถึงข้อมูลภายใน บุคคลภายนอกที่มาปฏิบัติหน้าที่ซึ่งรู้หรือครอบครอง หรือมีส่วนร่วมในการทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลภายในของบริษัท ต้องไม่ซื้อหรือขายหลักทรัพย์หรื่อเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลภายในที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน เว้นแต่การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการเอาเปรียบบุคคลอื่นในลักษณะตามที่สำนักงาน ก.ล.ต.ประกาศกำหนด
3. กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ผู้เข้าถึงข้อมูลภายใน และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลภายใน ต้องปฏิบัติตามมาตรการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงเวลาก่อนและหลังการเปิดเผยข้อมูลภายใน (Blackout Period) ตามที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการใช้ข้อมูลภายในโดยมิชอบ
4. กรรมการ ผู้บริหาร รวมถึงผู้ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดในสายงานบัญชีและการเงินของบริษัท มีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของตนเอง รวมถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ มาตรา 59 ประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. และประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่เกี่ยวข้อง และแจ้งต่อคณะกรรมการ (ผ่านเลขานุการบริษัท) เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของบริษัทอย่างน้อย 1 วันล่วงหน้าก่อนทำการซื้อขาย และรายงานผลให้คณะกรรมการรับทราบภายใน 3 วันหลังจากวันที่ทำรายการ
5. ห้ามมิให้ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลภายใน และพนักงานที่ลาออกแล้ว เปิดเผยข้อมูลภายใน หรือความลับของบริษัท ตลอดจนข้อมูลความลับของคู่ค้า ลูกค้า ของบริษัทฯ ที่ตนได้รับทราบจากการปฏิบัติหน้าที่ไปใช้ประโยชน์ให้แก่บุคคลภายนอก หรือบริษัทอื่นที่ตนเองเป็นผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานและลูกจ้าง แม้ว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดผลเสียหายแก่บริษัทและคู่ค้าของบริษัทก็ตาม เว้นแต่เป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด
6. บริษัทกำหนดระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และข้อมูลในระบบสารสนเทศ โดยการควบคุม และ/หรือ ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของบริษัทจากบุคคลภายนอก และกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลให้กับพนักงานในระดับต่างๆ ตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ