This printed article is located at
https://investor-th.pdgth.com/company_background.html
Company Background
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญของบริษัท สรุปได้ดังนี้
ปี 2521
- บริษัทเริ่มดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยคุณชวลิต
หวังธำรง
ปี 2550
- บริษัทย้ายที่ทำการแห่งใหม่มา ณ ที่ทำการปัจจุบัน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ประกอบด้วยอาคารสำนักงานใหญ่และอาคารคลังสินค้า
ปี 2551
- บริษัทจดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 135 ล้านบาท
- บริษัทได้รับการรับรองคุณภาพตามระบบมาตรฐาน ISO 9001: 2000 จาก UKAS & GLOBAL
ปี 2552
- บริษัทขยายธุรกิจไปยังธุรกิจสิ่งแวดล้อมด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค
ปี 2553
- บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2553 ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ PHOL
- บริษัทย้ายที่ทำการสาขาระยองมา ณ ที่ทำการสาขาระยองปัจจุบัน อ.เมือง จ.ระยอง ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน
สาขาและคลังสินค้า
- บริษัทได้รับการรับรองคุณภาพตามระบบมาตรฐาน ISO 9001: 2008 จาก UKAS & GLOBAL
ปี 2555
- บริษัทจัดตั้งสาขาเพิ่ม 1 แห่ง ที่อำเภอเมืองภูเก็ต โดยปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานสาขา 3 แห่งคือ
- ภาคตะวันออกที่จังหวัดระยอง ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต
- บริษัทขยายธุรกิจไปยังประเทศเมียนมาร์ โดยแต่งตั้งบริษัท เอการ์ จำกัด
เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทในประเทศเมียนมาร์
- บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย OHSAS18001:2007
- บริษัทได้รับรางวัล SET Award 2012 ด้านการรายงานบรรษัทภิบาล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยได้รับผลประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ”ดีเลิศ”
ปี 2556
- บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ผล พาลาเดียม จำกัด วัตถุประสงค์เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าด้านความปลอดภัยและ
อาชีวอนามัยให้กับลูกค้าใน กลุ่มหน่วยงานราชการ มูลค่าเงินลงทุนคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
- บริษัทจัดตั้ง บริษัท ผลธัญญะ (แคมโบเดีย) จำกัด (Pholdhanya (Cambodia) Company Limited) ในประเทศกัมพูชา
เพื่อดำเนินธุรกิจด้าน การจัดจำหน่ายอุปกรณ์และระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค และสัมปทานน้ำประปาเพื่อชุมชน
โดยมีมูลค่าเงินลงทุนเริ่มแรก คิดเป็นร้อยละ 70 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,200 ล้านเรียล หรือประมาณ 9.5 ล้านบาท
ต่อมาในปี 2558 บริษัทขอซื้อหุ้นส่วนในบริษัทย่อยที่เหลืออีกร้อยละ 30 จากผู้ร่วมทุน ในราคา 1 บาท
เนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุนเกินทุน ปัจจุบัน บริษัทมีเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัท ผลธัญญะ (แคมโบเดีย) จำกัด
ในสัดส่วนร้อยละ 100 อย่างไรก็ตาม บริษัทได้หยุดการดำเนินงานในบริษัทย่อย
เนื่องจากยังไม่มีแผนธุรกิจที่เหมาะสมรองรับ และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบริษัทย่อย
- บริษัทได้รับรางวัล SET Award 2013 ด้านการรายงานบรรษัทภิบาล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยได้รับผลประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ”ดีเลิศ”
- บริษัทได้รับรางวัล MAI Special Encouragement จากโครงการประกาศเกียรติคุณคณะกรรมการแห่งปี 2556 หรือ "Board of
the Year Awards 2013"
ปี 2557
- บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ผล วอเตอร์ จำกัด
วัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคอย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดจำหน่ายสินค้า
การให้บริการออกแบบ ก่อสร้าง บำรุงรักษาระบบ ให้ลูกค้าทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
โดยมีมูลค่าเงินลงทุนคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท และต่อมาในปี 2560
บริษัทย่อยได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 50 ล้านบาท บริษัทลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัทย่อย
โดยมีมูลค่าเงินลงทุนคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท
- ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 162 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน
27 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ
- บริษัทได้รับรางวัล SET Award 2014:SET Award of Honor ด้านการรายงานบรรษัทภิบาล จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยได้รับผลประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ”ดีมาก”
ปี 2558
- บริษัทได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณชมเชย คณะกรรมการ MAI ประจำปี 2558 จากโครงการประกาศเกียรติคุณ
“คณะกรรมการแห่งปี 2558 หรือ Board of the Year Awards 2015
- บริษัทร่วมลงนามประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วมเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC)
ปี 2559
- บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 251 ล้านบาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 40.50 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม
(RO) ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีก 40.50 ล้านหุ้น
เพื่อรองรับการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่1 (PHOL-W1)
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีก 8 ล้านหุ้น
เพื่อรองรับการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท ครั้งที่ 1
(PHOL ESOP WARRANT)
- บริษัทได้รับประกาศนียบัตรประกาศนียบัตรรับรองการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต
Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition against Corruption หรือ CAC
ปี 2560
- บริษัทได้รับการรับรองคุณภาพตามระบบมาตรฐาน ISO 9001: 2015 จาก UKAS & GLOBAL
ปี 2562
- บริษัทลดทุนจดทะเบียนจำนวน 40.50 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 210.50 ล้านบาท
โดยตัดหุ้นสามัญเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (PHOL-W1)
ที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายจำนวน 40.50 ล้านบาท
- บริษัทได้รับประกาศนียบัตรรับรองการต่ออายุการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต
Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition against Corruption หรือ CAC
- บริษัทได้รับรางวัล "Thailand Sustainability Investment" THSI หรือรางวัลหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2562
กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ
ปี 2563
- บริษัทได้รับการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล จากผลสำรวจของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
อยู่ในระดับ “ดีเลิศ” (EXCELLENT) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
- บริษัทได้รับรางวัล "THAILAND SUSTAINABILITY INVESTMENT" THSI หรือรางวัลหุ้นยั่งยืน ประจำปี 2563 ต่อเนื่องปีที่
2 กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ
- บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้เข้าอยู่ในทำเนียบ “บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน” หรือ ESG EMERGING LIST
และเป็นหลักทรัพย์ใน UNIVERSE ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2563 โดย สถาบันไทยพัฒน์
ปี 2564
- บริษัทได้รับการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล จากผลสำรวจของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย(IOD)
อยู่ในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
- บริษัทได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2564 ต่อเนื่องเป็นปีที่
2โดยหน่วยงาน ESG Rating ของสถาบันไทยพัฒน์
ปี 2565
- บริษัทได้รับการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล จากผลสำรวจของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
อยูในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8
- บริษัทได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ประจำปี 2565 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
โดยหน่วยงาน ESG Rating ของสถาบันไทยพัฒน์
- บริษัทได้รับประกาศนียบัตรรับรองการต่ออายุครั้งที่ 2
การเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต Thailand’s Private Sector Collective Action
Coalition against Corruption หรือ CAC
ปี 2566
- บริษัทได้รับการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล จากผลสำรวจของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
อยู่ในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9
- บริษัทได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ปี 2566 ที่ระดับ “A” โดยบริษัท เป็น 1 ใน 193 บริษัทจดทะเบียนฯ
ที่ผ่านเกณฑ์และได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน ปี 2566 ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
ปี 2567
- บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทย่อย บริษัท ผล พาลาเดียม จำกัด จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,000,000 บาท
เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 10,000,000 บาท เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงานที่มูลค่าสูงขึ้น สัดส่วนเงินลงทุนคิดเป็นร้อยละ
99.99 ของทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท
- บริษัทย่อย บริษัท ผล วอเตอร์ จำกัด จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทเป็น บริษัท ผล เอ็นเทค จำกัด
- บริษัทมีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มบริษัทย่อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการภายในกลุ่มบริษัท
โดยขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัท ผล เอ็นเทค จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ผล วอเตอร์ จำกัด) ให้กับบริษัทย่อย บริษัท
ผล พาลาเดียม จำกัด ส่งผลให้ บริษัท ผล เอ็นเทค จำกัด มีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัท
- บริษัทได้รับการประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล จากผลสำรวจของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
อยู่ในระดับ “ดีเลิศ” (Excellent) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10
- บริษัทได้รับผลการประเมิน SET ESG Ratings ปี 2567 ที่ระดับ “A” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยบริษัท เป็น 1 ใน 228
บริษัทจดทะเบียนฯ ที่ผ่านเกณฑ์และได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน ปี 2567 ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
- บริษัทได้รับรางวัล SET Awards 2024 รางวัลบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่น (Outstanding Company
Performance Awards) กลุ่มรางวัลธุรกิจยอดเยี่ยม (Business Excellence)
ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนฯที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่เกิน 1,500 ล้านบาท